3 วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์ ประหยัดขึ้นเป็นเท่าตัว


Categories:

เบี้ยประกันภัยของแต่ละบริษัทนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเจ้าของรถที่ต้องการจะซื้อประกัน จึงจำเป็นต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าได้มาในราคาที่เหมาะสม ยิ่งใครที่มีงบประมาณน้อย ยิ่งอยากได้ความคุ้มครองสุดคุ้มในราคาประหยัดด้วยแล้วต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ต้องกังวลเรามีวิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์มาให้ลองทำตาม รับรองว่าประหยัดได้มากขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอน

3 วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์

วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์ที่เรากำลังจะพูดถึง เป็นวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งบริษัทประกัน วิธีการที่ว่า มีดังต่อไปนี้

1. เป็นลูกค้าชั้นดี

ลูกค้าชั้นดี คือ การที่ไม่มีประวัติการขอเคลมหรือเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัทประกัน โดยจะได้รับส่วนลดตามกฎหมายที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ไว้อย่างชัดเจน ดังนี้

  • หากไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัทประกันในปีแรก จะได้รับส่วนลด 20% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ
  • หากไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัทประกันใน 2 ปีติดต่อกัน จะได้รับส่วนลด 30% ของเบี้ยประกันต่ออายุ
  • หากไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัทประกันใน 3 ปีติดต่อกัน จะได้รับส่วนลด 40% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ
  • หากไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อบริษัทประกัน 4 ปีติดต่อกันหรือมากกว่านั้น จะได้รับส่วนลด 50% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ

นอกจากนั้น ในระหว่างปีกรมธรรม์ผู้เอาประกันภัยได้รับส่วนเบี้ยประกันรถยนต์ประวัติดีแล้วจะได้มีการร้องค่าเสียหาย ซึ่งในการต่ออายุในปีถัดไปจะมีเกณฑ์การพิจารณาลดประวัติดอกเบี้ย ดังนี้

  • ลดลง 1 ลำดับขั้นจากเดิม
  • ลดลง 2 ระดับขั้นจากเดิมแต่ไม่เกินอัตราปกติ 

2. ระบุชื่อผู้ขับขี่

การระบุชื่อขับขี่ มีส่วนช่วยในการลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้สูงสุดถึง 20% ซึ่งจะเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่ไม่เกิน 2 คน โดยแบ่งตามอายุ ดังนี้

  • อายุ 18 – 24 ปี ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 5%
  • อายุ 25 – 35 ปี ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 10%
  • อายุ 36 – 50 ปี ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 15%
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 20% 

แต่อย่างไรก็ตามขอเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าการระบุชื่อผู้ขับขี่ไม่เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่มากกว่า 2 คนขึ้นไป เพราะในกรณีที่บุคคลที่ 3 นำรถไปใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุจะไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง

3. เลือกทุนประกันก็ช่วยประหยัดเบี้ยประกันได้

หากมีความประสงค์ต้องการจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์น้อยลง สิ่งที่ต้องทำอันดับถัดไป คือ การเลือกทุนประกันที่ไม่สูงมาก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยประกันชั้น 1, 2, 3, 2+ หรือ 3+ ก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งบางคนอาจพิจารณาเลือกจากความเหมาะสม ในขณะที่บางคนอาจเลือกจากความคุ้มค่าของความคุ้มครองที่ได้รับ ซึ่งก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเบี้ยประกันชั้น 1 หรือชั้น 2 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากกว่า แต่การจัดซื้อก็ดูเหมือนต้องใช้งบประมาณมากเกินไป ดังนั้นเราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิธีการลดเบี้ยประกันรถยนต์ที่เรากล่าวไป จะช่วยให้คุณได้เบี้ยประกันในราคาที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด